วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2551

การเลือกใช้บริการ Web Hosting Service

การเลือกประเภท Web Hosting Service
สวัสดีครับ คราวนี้ผมเอาบทความเกี่ยวกับ web hosting มาให้อ่านกันครับ เป็นบทความจากนักเขียนนิรนาม ของ HostSearch.com เจ้าของบทความเค้าบอกว่า เอาไปใช้เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นไปในทางการค้าได้ แต่ห้ามดัดแปลงด้วยประการทั้งปวง! เราลองมาดูกันเลยครับว่า เจ้า Web Hosting Service ที่ว่านี่มันคืออะไร มีข้อดีอย่างไร ทำไมการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันจึงต้องพึ่งพา Web Hosting Service เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง small business web site hosting มาดูกันครับ
ทุกวันนี้ จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษมากมายปรากฎในอุตสาหกรรม web hosting เรื่องเกี่ยวกับ web hosting นั้น มันไม่ได้ยากอย่างที่เราคิด ถ้าเด็ก 8 ขวบขี้มูกย้อย (snotty little 8-year old kid) สามารถทำ website ส่วนตัวที่ดูดีมีฟังชั่นต่างๆสมบูรณ์ แล้ว (การหา web host) มันจะยากตรงไหนล่ะ? สำหรับ hosting beginner การรู้เรื่องทางเทคนิคเกี่ยวกับอุตสหกรรม web hosting นั้นไม่ได้สำคัญเท่ากับ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ประเภทของโฮสต์ที่เหมาะกับประเภทของ website ของคุณเลย...


โดยทั่วไปเราสามารถแบ่ง website ได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆดังนี้ครับ

1. Personal/Small Business Homepages (website ส่วนตัวหรือธุรกิจขนาดเล็ก)

2. E-Commerce Web Sites (website ที่ดำเนินธุรกิจออนไลน์เป็นหลัก)

3. Information Providers (website ที่คอยให้ข้อมูลข่าวสาร)

ประเภทของ web host ที่คุณจะเลือกก็ขึ้นอยู่กับประเภทของ website ของคุณด้วยครับ


Personal Homepage/Small Business Website


website ประเภทนี้ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายครับ เพราะเป็น website ขั้นพื้นฐานที่ ใครก็สามารถทำได้ ถ้าคุณคิดจะสร้าง website ประเภทนี้ ก็ไม่ต้องขวนขวายอะไรมากมายหรอกครับ ลองพิมพ์ คำว่า “free web hosting” ใน Google ดู คุณก็หา free web host ได้แล้วครับ (อาจจะรวมถึง free blog ทั้งหลายแหล่ อย่างที่ผม กำลังทำอยู่ก็ได้ครับ)


E-Commerce Website


ถ้าคุณวางแผนจะทำธุรกิจ online ผ่านทาง website ของคุณล่ะก็ คุณก็คงต้องการ web host ที่มันซับซ้อนมากกว่า เว็บของเด็กแปดขวบครับ เพราะคุณต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ space ของ web host ที่คุณจะใช้ หรือ ขนาดของ website ที่คุณจะสร้างขึ้นมา รวมถึงรู้วิธีคำนวณและจัดการกับ traffic หรือ data transfer ด้วยครับ เพราะฉะนั้น web hosting ที่เหมาะกับ e-commerce website ก็เป็นไปได้ 3 ประเภทครับ คือ Co-location (ฝากเครื่อง server ของเราไว้กับผู้ให้บริการซะเลย) , Dedicated Server (เช่าเครื่อง server ของผู้ให้บริการ) และ Virtual Hosting (เช่าพื้นที่ web server ที่มี websites อื่นๆเช่าอยู่ด้วย แต่ทำงานเสมือนเป็น server ย่อยๆ หลายเครื่อง) ซึ่ง web host แต่ละประเภทนั้น แตกต่างกันยังไง อ่านไปเรื่อยๆจะเจอเองครับ (ผมลืมไปเลยว่า ยังไม่เคยให้นิยาม คำว่า web hosting เลย เอาไว้คราวหลังจะกลับมาแก้ตัวครับ ตอนนี้ขอเขียนเรื่องนี้ให้จบก่อน ไม่งั้นลมปราณจะแตกซ่าน!)


Information Provider


เป็น website ประเภทที่ใหญ่ที่สุดครับ ต้องการความเชี่ยวชาญอย่างล้นเหลือในการออกแบบ และจัดการกับปริมาณของ traffic หรือ data transfer (ซึ่ง “เด็ก 8 ขวบขี้มูกย้อย” ไม่น่าจะทำได้!) ถ้าคุณคิดการใหญ่ อยากจะสร้าง website ประเภทให้ข้อมูลกับผู้ใช้ทั่วโลกาล่ะก็ คุณต้องลงทุนลงแรงหนักเป็นพิเศษครับ ควรจะมีเครื่อง server ไว้ครอบครองเป็นดีที่สุด พร้อมภูมิความรู้เรื่องระบบ network ทั้งหลายทั้งปวง ระดับคุรุ (เกินความสามารถที่ “ครุ ถัง กะละมัง” อย่างผมจะบรรยายได้หมด) ตัวเลือกรองลงมาก็ co-location server หรือ dedicated server ครับ แล้ว website ประเภทนี้ ก็เหมาะสำหรับ ผู้คิดการใหญ่และทุนอำนวยเท่านั้นครับ ไม่เหมาะกับ webmaster “จอมยุทธพเนจร หัวเดียวกระเทียมลีบ” แน่นอน เพราะคุณต้องสุมหัวกับพรรคพวกหนักหน่อย กว่าจะทำให้ website ของคุณปรากฏกายได้อย่างภาคภูมิ


Virtual Hosting

Virtual Hosting บางทีเรียกว่า Virtual Private Server (VPS) ซึ่งก็คือประเภทของ web host ที่แบ่งพื้นที่ใน server ขนาดใหญ่ให้เราเช่านั่นเองครับ ซึ่งเราต้องแชร์พื้นที่ร่วมกับ website หรือผู้เช่าคนอื่นๆใน server นั้นๆด้วย ข้อดีของ virtual hosting ก็คือ ประหยัดครับ เมื่อเทียบกับฟังชั่น และคุณสมบัติพิเศษอื่นๆที่คุณได้รับแล้ว ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน แล้วก็หา web host ประเภทนี้ได้มากมายครับ ทั้งของไทยและของอินเตอร์ (บทความใน blog นี้ก็จะเน้นที่ web hosting ประเภทนี้แหละครับ) ข้อเสียก็มีครับ ถ้าเกิดคุณไปใช้เช่าพื้นที่ของ server ห่วยๆ ละก็ ความซวยจะตามมาครับ คุณอาจจะต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา (อาจถึงขั้นเสีย website ไปเลยก็ได้) แถมเสียหน้าอีกต่างหาก ถ้า website ของคุณล่ม (DOWN!) บ่อยๆ คงไม่มีผู้เยี่ยมชมที่ไหนปรบมือให้หรอกครับ


Co-location

Co-location Hosting หมายถึง คุณนำเอาอุปกรณ์และเครื่อง server ของคุณ ไปติดตั้งไว้กับผู้ให้บริการด้านระบบ network ซึ่งอาจจะหมายถึง ผู้ให้บริการ internet (ISP) ครับ ข้อดีของ co-location hosting ก็คือ คุณสามารถควบคุมและปรับแต่งการทำงานแทบทุกอย่างใน server ของคุณเองได้ตามประสงค์ แต่ข้อเสียก็คือ แพง! ขอรับเจ้านาย เพราะเครื่อง server เครื่องนึงไม่ใช่ กล้วยปิ้ง นะครับ ไหนจะต้องจ่ายค่าบำรุงรักษาเองอีก รวมถึงค่าจ้างผู้ชำนาญการในการติดตั้งและดูแลระบบอีกต่างหาก แต่ก็เหมาะกับ webmaster ผู้มีบุญญาวาสนาสูงหรือ webmaster ที่ทำงานให้กับองค์กรใหญ่ๆครับ ถ้าคุณไม่ไว้วางใจบริการของ web hosting ที่ไหนเลย และมีแรงจ่ายได้ไม่อั้น co-location hosting เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณครับ




Dedicated Server

Dedicated Server Hosting หมายถึง คุณไปเช่า server ทั้งเครื่องจากผู้ให้บริการรายนั้นๆครับ เหมาะสำหรับ webmaster ที่เอาเป็นเอาตายกับการสร้าง website แต่ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองครับ เพราะคุณจะสามารถควบคุม server ได้ในระดับสูง (แต่น้อยกว่าระดับ co-location hosting) มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสะดวกสบาย (a lot of disk space) แถมไม่ต้องห่วงเรื่องการจราจรติดขัด (a lot of bandwidth) เพราะคุณจะเป็น website อันเดียวใน server นั้นครับ สรุปแบบกำปั้นทุบดิน ว่า ข้อดีของ dedicated server hosting คือ เสียเงินน้อยกว่า co-location hosting ข้อเสียคือ เสียเงินมากกว่า virtual hosting นั่นเอง...

(ใครอยากอ่านต้นฉบับไปดูเองที่นี่ครับ hostsearch articles)

ที่มา : finewebhosting.blogspot.com

1 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น